Emission Labs (EML) มีหลอด 300B สามรุ่น ซึ่งแต่ละรุ่นมีความแตกต่างกันในด้านโครงสร้าง คุณลักษณะทางไฟฟ้า และเสียง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานตามรสนิยมดังนี้:

1. EML 300B (Standard):

โครงสร้าง= เป็นหลอด 300B แบบคลาสสิกของ EML ที่ยึดตามข้อกำหนดของ 300B ดั้งเดิม มี Anode (แผ่นเพลท) แบบแข็ง.
คุณลักษณะทางไฟฟ้า= ถูกออกแบบมาให้ทำงานที่จุดทำงานมาตรฐานของ 300B ทั่วไป.
เสียง= ให้เสียงที่เป็นธรรมชาติ มีความสมดุล มีความละเอียดและ musicality ที่ดี เป็นตัวเลือกที่เชื่อถือได้และเป็นที่นิยมสำหรับผู้ที่ต้องการเสียง 300B ที่เป็นเอกลักษณ์.
ความเข้ากันได้= โดยทั่วไปสามารถเสียบเข้ากับแอมป์ 300B ส่วนใหญ่ได้.
เหมาะสำหรับ= ผู้ที่ต้องการเสียง 300B แบบคลาสสิกที่น่าเชื่อถือและมีคุณภาพสูง.

2. EML 300B-XLS:

โครงสร้าง= เป็นเวอร์ชันที่ "แข็งแกร่ง" และทรงพลังกว่า 300B มาตรฐาน. มีการรวมโครงสร้าง Grid แบบคลาสสิกของ 300B เข้ากับโครงสร้าง Anode ที่แข็งแรงกว่าและขนาดหลอดแก้วที่ใหญ่กว่า ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากหลอดวินเทจอย่าง 52B. จุดเด่นคือไส้หลอดแบบ Cathode Tap Filament (ซึ่งสามารถเลือกต่อหรือไม่ต่อก็ได้ หากไม่ต่อก็จะทำงานเหมือน 300B ทั่วไป).

คุณลักษณะทางไฟฟ้า=
กำลังขับสูง= ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับจุดทำงานที่สูงขึ้น และให้กำลังขับที่มากกว่า 300B มาตรฐานได้อย่างสบายๆ. เหมาะสำหรับแอมป์ที่ต้องการกำลังขับสูงสุดจาก 300B.
ความทนทาน= มีความทนทานต่อการทำงานหนักได้ดีกว่า ทำให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น โดยเฉพาะในแอมป์ประเภท Push-Pull หรือ Single-Ended ที่ใช้ Bias สูง.
ความเข้ากันได้= สามารถใช้แทน 300B ทั่วไปได้โดยตรง โดยหลอดจะปรับตัวเองให้เข้ากับจุดทำงานเดิมของ 300B นั้นๆ อย่างไรก็ตาม สามารถปรับ Bias ให้สูงขึ้นเพื่อเพิ่มกำลังขับและใช้ประโยชน์จากความสามารถที่เหนือกว่าของหลอดได้.
เสียง= ให้ความโปร่งใสมากที่เสียงต่ำขึ้นไปถึงเสียงกลาง และยังคงรักษาความมีไดนามิกได้เหมือนต้นฉบับได้ดีเยี่ยมของเสียงสูง ทำให้เสียงมี "พลัง" และ "ปลดปล่อย" ในการสร้างเสียง.
เหมาะสำหรับ= แอมป์ Push-Pull ที่ต้องการหลอดที่ทนทานและให้กำลังขับสูง แอมป์ Single-Ended ที่ต้องการกำลังขับที่มากขึ้นหรือต้องการหลอดที่มี "พลังสำรอง" เพื่อให้ได้เสียงที่ใสและมีไดนามิกที่ดีกว่า ของผู้ที่ต้องการอัพเกรด 300B เดิมให้ได้ประสิทธิภาพและอายุการใช้งานที่ดีขึ้น.

3. EML 300B Mesh:

โครงสร้าง= เป็นจุดเด่นที่สำคัญคือมี Anode (แผ่นเพลท) เป็นแบบ ลวดตาข่ายสาน (mesh anode) ซึ่งแตกต่างจาก Anode แบบแข็งในรุ่นอื่นๆ.
คุณลักษณะทางไฟฟ้า= มีข้อจำกัดในเรื่องกำลังขับที่ทำได้สูงสุด EML แนะนำให้ใช้ที่ Anode Dissipation ประมาณ 22-28 วัตต์ เพื่อให้ได้อายุการใช้งานที่ดีที่สุด (ในขณะที่ 300B-XLS สามารถไปได้ถึง 36 วัตต์). ไม่ใช่หลอดแบบ Plug-and-Play สำหรับทุกแอมป์ 300B จำเป็นต้องตรวจสอบจุดทำงานของแอมป์เพื่อให้แน่ใจว่าไม่เกินขีดจำกัดของหลอด.
เสียง=
ความโปร่งใสและรายละเอียด= ได้รับคำชมอย่างมากเรื่องความโปร่งใสของเวทีเสียง (transparent soundstage) และรายละเอียดที่ "บริสุทธิ์".
ความเป็นดนตรีและอารมณ์= ให้เสียงที่มีความเป็นดนตรีสูง ถ่ายทอดความละเอียดอ่อนและอารมณ์ของเพลงได้ดีเยี่ยม.
เสียงกลางที่ละเอียดอ่อน: มักให้เสียงกลางที่มีความประณีตและมีประกาย.

ข้อจำกัด/ข้อควรระวัง:
ไม่แนะนำสำหรับแอมป์กำลังขับสูง: เนื่องจากโครงสร้าง Anode แบบตาข่ายมีขีดจำกัดในการระบายความร้อนที่น้อยกว่า Anode แบบแข็ง จึงไม่เหมาะกับแอมป์ที่พยายามเค้นกำลังขับสูงๆ.
อาจมีเสียงรบกวน (noise) สูงกว่า: หลอด Mesh Plate โดยธรรมชาติอาจมีระดับ Noise สูงกว่าหลอด Anode ปรกติเล็กน้อย ซึ่งอาจสังเกตได้ชัดเจนในแอปพลิเคชันที่มีกำลังขยายสูงมาก เช่น หูฟังแอมป์ หรือ Pre-amplifier (แต่ในการใช้งานกับลำโพงปกติ มักไม่เป็นปัญหา).
ต้องระวังการใช้งาน= ต้องตรวจสอบข้อมูลจำเพาะของแอมป์และหลอดอย่างละเอียด เพื่อไม่ให้หลอดทำงานเกินกำลัง ซึ่งอาจทำให้อายุการใช้งานสั้นลงหรือเสียหายได้.
เหมาะสำหรับ= แอมป์ Single-Ended ที่มีกำลังขับต่ำถึงปานกลาง ลำโพงที่มีประสิทธิภาพสูง (high-efficiency speakers) ที่ไม่ต้องการกำลังขับมหาศาล.
ผู้ที่ต้องการคุณภาพเสียงที่เหนือระดับ เน้นความละเอียด ความโปร่งใส และความเป็นธรรมชาติของเสียง Triode.

การเลือกหลอด EML 300B รุ่นใดขึ้นอยู่กับความต้องการเฉพาะของแอมป์ที่คุณมี, ลำโพงที่คุณใช้, และรสนิยมทางเสียงส่วนตัวของคุณ. หากไม่แน่ใจ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือตรวจสอบข้อมูลในเอกสารกำกับหลอด (datasheet) ของ EML อย่างละเอียด.

สนใจสอบถาม โทร/ไลน์ 0845603199